วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สาเหตุที่แบตเตอรี่เสื่อม ส่วนใหญ่เกิดจากซัลเฟต(ขี้เกลือ)


แบตเตอรี่เก่าใช้แล้ว ที่เราทิ้งกันในปัจจุบัน
มากกว่า 30% ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้


สาเหตุที่แบตเตอรี่เสื่อม ส่วนใหญ่เกิดจากซัลเฟต(ขี้เกลือ)




       การทำงานของแบตเตอรี่ ใช้หลักการการทำปฏิกริยาทางเคมีของแผ่นธาตุ (ตะกั่ว) กับ กรด 
เวลาที่แบตเตอรี่คายไฟฟ้าออกมาเพื่อให้เราใช้งาน สิ่งที่ตามมาคือ กรดจะเปลี่ยนรูปเป็นซัลเฟต(ขี้เกลือ)
เป็นผลึกเกาะตามแผ่นธาตุ ทำให้หน้าสัมผัสของแผ่นธาตุกับน้ำกรดลดลง เป็นผลให้แบตเตอรี่หมดไฟ
ในแบตเตอรี่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เสื่อมสภาพ ผลึกซัลเฟต(ขี้เกลือ)เป็นผลึกนิ่มๆไม่แข็งมาก เครื่องชาร์จทั่วไป
หรือไดชาร์จรถยนต์ สามารถทำให้เกิดปฎิกริยาย้อนกลับ คือ ทำให้ผลึกซัลเฟต(ขี้เกลือ) หลุดออกจาก
แผ่นธาตุกลายเป็นกรด และละลายกลับ ในน้ำเหมือนตอนเริ่มต้น ปฏิกริยาย้อนกลับดังกล่าวเราเรียกว่า
การชาร์จไฟในแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้แบตเตอรี่มีไฟเต็ม กลับมาใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง 


        ผนึกซัลเฟตที่เกิดขึ้นในกระบวนการดังกล่าว จะมีซัลเฟตตกค้างที่ไม่ยอมหลุดขณะชาร์จไฟ 
และจะเกาะที่แผ่นธาตุ แน่นและแข็งขึ้นเรื่อยๆ และจะสะสมเพิ่มมากขึ้น มากขึ้น จนพื้นที่แผ่นธาตุ
ลดน้อยลง ทำให้แบตเตอรี่มีกำลังไฟและความจุลดน้อยลง นี่แหละคือ การเสื่อมของแบตเตอรี่

        ถ้าจะทำให้แบตเตอรี่ที่เสื่อม ให้มีสภาพดีขึ้น มีกำลังไฟมากขึ้น เราต้องขจัดซัลเฟตตกค้าง
พวกนี้ ให้หลุดออกจากแผ่นธาตุ ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น ใช้น้ำยาเคมีในการกัดล้าง , ใช้น้ำหรือ
น้ำยาล้างห้องน้ำเพื่อล้างภายในแบตเตอรี่ หรือ ใช้เครื่องฟื้นฟูแบตเตอรี่ เพื่อสลายซัลเฟตที่เกาะ
แข็งแน่นมากๆให้หลุดออก วิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน คือ การใช้เครื่องฟื้นฟูแบตเตอรี่ เพราะไม่อันตราย
ต่อแผ่นธาตุ ไม่ยุ่งยากต่อการทำงาน และสามารถสลายซัลเฟตได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

       เครื่องฟื้นฟูแบตเตอรี่ มีหน้าที่เหมือนเครื่องชาร์จ หรือไดชาร์จในรถยนต์ แต่ต่างกันตรงที่
เครื่องฟื้นฟูมีกำลังในการสลายซัลเฟต สูงมากกว่าเครื่องชาร์จปกติ เครื่องฟื้นฟูจะสร้างคลื่นแรงดัน
ไฟฟ้าขนาดแรงดันสูงชั่วขณะ ส่งกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ คล้ายๆกับการยิงอัลตร้าโซนิค สลายนิ่ว
นั่นแหละครับ แต่นี่เป็นหลักการทางไฟฟ้า ผลึกซัลเฟตจะเกิดการสั่น และแยกสลายออกจากกัน
ผลที่ได้ ผลึกซัลเฟตที่เกาะตามแผ่นธาตุก็จะสลายตัวออก เปิดพื้นที่ของแผ่นธาตุให้ทำปฏิกริยา
กับน้ำกรด แบตเตอรี่ก็จะได้ความจุกลับมา อาจจะไม่เต็ม 100% เพราะว่าแผ่นธาตุเองก็เสื่อมสลาย
ไปบ้าง แต่ก็จะได้กลับมา 70-80% แล้วแต่อายุการใช้งานของแบตลูกน้ันๆ
เพราะฉะนั้น เราสามารถยืดอายุการใช้งานของแบตลูกเก่าเราออกไปได้อีกครับ



การสลายซัลเฟตที่ดีที่สุด คือ ซัลเฟตระดับ1และ2 ส่วนการสลายซัลเฟตระดับ 3
ทำได้ยากกว่า ใช้เวลานานกว่า เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
จนสตาร์ทไม่ติด การ preventive M/T(ทุกๆ 2-3เดือน)เป็นสิ่งจำเป็น จะให้ผลดี
ที่สุดกับแบตเตอรี่ของคุณ ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ของท่านได้อีก 1 เท่าตัว